คุณแม่ที่ตั้งครรภ์ควรดูแลหุ่นของตัวเองอยู่เสมอ เพื่อให้เมื่อคลอดแล้วหุ่นก็ยังดีและสมส่วนเช่นเคย สามารถลดน้ำหนักหลังคลอดได้รวดเร็ว และยังส่งผลดีต่อสุขภาพของลูกน้อยในครรภ์อีกด้วย
หากน้ำหนักตัวของคุณแม่นั้นเกินกว่ามาตรฐานก็อาจส่งผลต่าง ๆ ที่เป็นอันตรายต่อลูกน้อยในครรภ์ได้ เช่น คลอดยากและคลอดก่อนกำหนด ทำให้คุณแม่ที่ตั้งครรภ์ควรดูแลหุ่นให้ดูดีและมีมาตรฐานด้วยวิธีต่าง ๆ ดังนี้
1. ทานอาหารให้เหมาะสม
เมื่อตั้งครรภ์แน่นอนว่าคุณแม่จะมีความอยากอาหารมากยิ่งขึ้น แต่ก็ต้องอย่าพลั้งพลาดตามใจปากมากจนเกินไปเพราะอาจทำให้มีน้ำหนักตัวที่เกินมาตรฐานไปได้ โดยคุณแม่อาจจะใช้วิธีปรับเปลี่ยนสิ่งที่อยากทานให้กลายเป็นอาหารที่ได้รับสารอาหารครบถ้วน
ควรเน้นอาหารที่มีโปรตีน โฟเลต แคลเซียม และธาตุเหล็ก โดยการทานผักใบเขียว นม ถั่ว หรือไข่ และไม่ควรทานอาหารแช่แข็ง และอาหารฟาสต์ฟู้ดนั่นเอง
2. นอนหลับให้เพียงพอ
คุณแม่ที่ตั้งครรภ์มักจะประสบปัญหาการนอนไม่หลับ หรือหลับยากจากภาวะความวิตกกังวลหรือความเครียด ซึ่งนั่นอาจส่งผลให้คุณแม่มีน้ำหนักตัวที่เพิ่มสูงขึ้น และถ้าอยากมีหุ่นที่เป๊ะ น้ำหนักตัวที่มีมาตรฐานคุณแม่จะต้องทำจิตใจให้ผ่อนคลายปราศจากความเครียดโดยการทำสมาธิประมาณ 10 – 15 นาทีก่อนเข้านอน เพื่อให้สามารถนอนหลับพักผ่อนได้อย่างเต็มที่ เพราะนอกจากการนอนไม่เพียงพอจะทำให้คุณแม่เสี่ยงที่จะมีน้ำหนักตัวที่เพิ่มสูงขึ้นแล้ว ยังทำให้ทารกในครรภ์ได้รับอันตรายและมีโอกาสที่ลูกน้อยจะมีน้ำหนักตัวที่ต่ำกว่ามาตรฐานอีกด้วย
3. ออกกำลังกายและขยับร่างกายอยู่เสมอ
คุณแม่ที่ต้องการมีหุ่นที่เป๊ะ จะต้องอย่าลืมที่จะออกกำลังกายหรือขยับร่างกายอยู่เสมอ โดยจะต้องคำนึงถึงความเหมาะสมและความปลอดภัยของลูกน้อยเป็นหลัก ซึ่งคุณแม่สามารถเดินช้าๆ เพื่อออกกำลังกายและเพิ่มความผ่อนคลาย เล่นโยคะเพื่อยืดเส้นยืดสายและลดความเครียด รวมถึงออกกำลังกายที่ไม่มีการกระทบกระเทือน เช่น ว่ายน้ำ แอโรบิค (แบบเบาๆ) เป็นต้น
4. ลดน้ำตาลและของหวาน
แม้ของหวานนั้นจะเป็นสิ่งที่คุณแม่ที่ตั้งครรภ์มักจะต้องการเป็นพิเศษ แต่คุณแม่จะต้องอดทนเพื่อให้มีหุ่นที่เป๊ะและน้ำหนักตัวที่ไม่เกินมาตรฐาน โดยการลดนี้ไม่ใช่การอดหรืองดไปเลย คุณแม่ควรจะจำกัดปริมาณน้ำตาลที่จะทานในแต่ละวันซึ่งไม่ควรเกิน 6-8 ช้อนชาต่อวัน หรือควรจะอยู่ที่ประมาณ 10% ของพลังงานที่ได้รับในแต่ละวัน ซึ่งหากคุณแม่มีความอยากของหวานมากๆ เราแนะนำให้เลือกทานผลไม้ที่มีรสหวานทดแทน เช่น มะม่วง แอปเปิ้ล แตงโม และกล้วย
5. ดื่มน้ำให้เพียงพอ
สำหรับเคล็ดลับข้อสุดท้ายที่จะขาดไปไม่ได้เลยคือการดื่มน้ำให้เพียงพอ เพื่อลดอาการท้องผูกและปัญหาในการขับถ่ายของคุณแม่ รวมไปจนถึงเพื่อให้ระบบเผาผลาญทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ ช่วยย่อยอาหาร และช่วยล้างสารพิษได้อีกด้วย โดยคุณแม่ที่ตั้งครรภ์ควรดื่มน้ำวันละ 2 – 2.5 ลิตรต่อวัน โดยอาจทำเป็นตารางการดื่มน้ำประจำวันให้มีการดื่มน้ำที่ละน้อยๆ ทั้งวัน ไม่ดื่มรวดเดียวในปริมาณมากๆ และเลือกดื่มเป็นน้ำเปล่า หลีกเลี่ยงการดื่มคาเฟอีน น้ำอัดลม และน้ำที่มีส่วนผสมของน้ำตาลและสารอันตราย เพื่อหุ่นที่สวยและความปลอดภัยของลูกน้อยในครรภ์นั่นเอง