นายเเพทย์ยงยุทธค้านตรวจโรคจิตเวชก่อนรับทำงาน

     นพ.ยงยุทธ วงศ์ภิรมย์ศานติ์ ที่ปรึกษากรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า ปัจจุบันแบ่งสุขภาพจิตเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มป่วยและไม่ป่วย เช่น ปัญหาการฆ่าตัวตายมากกว่า 50% และปัญหาความรุนแรงกว่า 95% ไม่ได้ป่วยทางจิตเวช การรักษาครอบคลุมระบบบัตรทอง ส่วนประเด็นข้อกำหนดให้คนที่เข้ารับราชการต้องตรวจสุขภาพจิตก่อนนั้น ตนไม่เห็นด้วย เพราะบางคนเป็นโรคซึมเศร้าที่รักษาแล้วก็กลับไปทำงานได้ การตรวจสุขภาพจิตก่อนทำงานจะทำให้เกิดการตีตรา และประสิทธิภาพการตรวจแทบไม่มีประโยชน์ เพราะคนส่วนใหญ่ไม่มีอาการตอนที่ตรวจ ถ้าป่วยขณะนั้นก็ไม่มีทางที่จะสอบราชการผ่านอยู่แล้ว แต่ส่วนใหญ่กว่า 90% มักจะป่วยหลังจากที่เข้ารับราชการแล้ว หน่วยงานต้องเข้าใจ

     นายพรชัย เมธาภรณ์พงศ์ ผอ.สำนักกฎหมาย ผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) กล่าวว่า กฎ ก.พ.มีการใช้มานาน เพื่อให้ทันต่อสถานการณ์ จึงได้ปรับปรุงร่างกฎ ก.พ.ฉบับใหม่ และผ่านความเห็นชอบ จากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ตั้งแต่วันที่ 20 ก.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งขั้นตอนดำเนินการ ก.พ.ได้สอบถามความเห็นส่วนราชการทุกแห่ง เพื่อเสนอเรื่องเข้าที่ประชุมคณะกรรมการแพทย์ สธ. จากนั้นจะมีการกำหนดโรคที่แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือกลุ่มโรค ทางกาย และกลุ่มโรคทางจิต ที่มีข้อแนะนำเยอะคือ โรคทางจิต เนื้อหาที่ปรากฏในร่างกฎ ก.พ. จะใช้คำว่า เป็นโรคจิต (cyclosis) และโรคอารมณ์ผิดปกติที่ปรากฏอาการเด่นชัด รุนแรง และเรื้อรังที่กระทบต่อการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่ง ก.พ.ได้กำหนดเพิ่มเติมในหลักเกณฑ์ตรวจร่างกายซึ่งที่ผ่านมาหน่วยงานราชการอื่นๆ ก็ได้กำหนดโรคจิตเวชไว้ในกฎการรับสมัครบุคลากร

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *