Hair & Make up Stylist คุณคาโอริ นากาอิผู้เขียนหนังสือ “เป็นตัวเอง ที่ผู้คนต้องเหลียวมองยิ่งกว่าการแต่งหน้าคือ เทคนิค” และ “ทำแบบนี้ก็ได้หรอ!? เทคนิคการแต่งหน้า แต่งให้สวยตอนไหนๆ ก็ทำได้” ซึ่งในครั้งนี้เราได้มีโอกาสมาเรียนรู้เทคนิควิธีการแต่งหน้าสวยได้ในลุค business! เริ่มตั้งแต่ขั้นตอนรองพื้น จนจบที่เติมเรียวปากสวยด้วยลิปสติก เราตั้งใจเลคเชอร์ทุกกระบวนการมาฝากทุกท่านกันค่ะ
รองพื้นให้เนี๊ยบ! สวยแบบไม่โบ๊ะ
（1）บีบีครีม ปกปิดรูขุมขน และจุดด่างดำ
เริ่มจากปกปิดรูขุมขนหรือจุดด่างดำด้วยบีบีครีม ใช้วิธีแต้มแบบคลึงเบาๆ แบบปิดทับรูขุมขน อย่าเกลี่ยไปในทิศทางเดียวกันแต่ตบเบาๆ จากจุดที่แต้มและเกลี่ยให้กระจายออกไปรอบๆ ระวังหากใช้ทั่วทั้งใบหน้าจะดูแมท หน้าจะแบน หากต้องการเพิ่มมิติให้ใบหน้า ดังนั้นขั้นตอนนี้ควรทำเฉพาะจุดที่ต้องการปกปิดเท่านั้นก็พอ
（2）ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ
ขั้นตอนถัดไป รองพื้นด้วยเบสเนื้อสีเขียว แต้มที่กลางใบหน้าแล้วเกลี่ยออกไปโดยรอบ เพื่อปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ เนื้อเบสสีเขียวจะช่วยปกปิดรอยกระ ฝ้า และรอยแดง และให้ความรู้สึกบางเบาเป็นธรรมชาติ เบสตัวนี้ก็ไม่ควรใช้ทั่วทั้งใบหน้า ให้ใช้เฉพาะบริเวณแก้ม ซึ่งเป็นจุดกึ่งกลางของหน้าเท่านั้น
ต่อด้วยฟาวน์เดชั่น เพิ่มมิติให้ใบหน้า!
（3）รองพื้นอย่างไรให้ เป๊ะ! โฟกัสที่ “โซนผิวสวย”
หลังขั้นตอนเบส เรามาต่อด้วยรองพื้นฟาวน์เดชั่น โดยครั้งนี้เราเลือกรองพื้นชนิดน้ำ แนะนำให้เลือกเนื้อครีมที่มีความเนียน โดยเริ่มแต้มโซนใต้ดวงตาไล่ขึ้นไปทางหู จากนั้นใช้ฟองน้ำตบเบาๆ บริเวณนั้น เกลี่ยให้เนียน หนากว่าบริเวณอื่นเล็กน้อย
บริเวณนี้คุณคาโอริเรียกว่า “โซนผิวสวย” หากเกลี่ยรองพื้นให้ดีตอนนี้ รับรองว่าเมคอัพต้องออกมาสวยแน่นอน
（4）จบขั้นตอนด้วยรองพื้นให้ทั่วใบหน้า
เมื่อรองพื้นโซนผิวสวยเสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้ใช้ฟองน้ำเดิมที่มีรองพื้นเหลือติดอยู่ ตบเบาๆ บริเวณรอบๆ โซนผิวสวย เช่น จมูก หน้าผาก เปลือกตา โซนผิวสวยเราจะรองพื้นหนากว่าเล็กน้อย แต่บริเวณอื่นๆ ก็จะเกลี่ยบางๆ แม้ใช้รองพื้นเพียงตัวเดียวก็ทำให้ใบหน้าออกมาดูมีมิติได้
ขั้นตอนสุดท้ายของเมคอัพผิวหน้า !
（5）รองพื้นเพื่อแก้มที่เปล่งปลั่ง
แต่งแก้มให้ดูมีเลือดฝาดจากภายในจะต้องเริ่มตั้งแต่ขั้นตอนรองพื้น โดยใช้ cream cheek ถ้าหากจะทาลงบนแก้มโดยตรงจะเข้มเกินไป ให้ทาลงบนหลังมือพักก่อน แล้วใช้ฟองน้ำสำหรับทารองพื้นเมื่อสักครู่นี้ นำส่วนที่มีรองพื้นติดอยู่มาทา cream cheek ที่เราพักไว้บนหลังมือ แล้วแต้มลงบนแก้มเป็นวงกลม
（6）ต่อด้วยแป้งเพื่อให้หน้าเนียน
ทีโซน กับใต้ตาที่เมคอัพมักจะหลุดง่าย เราต้องทาด้วยแป้งทาหน้าด้วยพัฟ เราต้องใช้พัฟทาแป้งให้ดีเพื่อให้ได้แป้งออกมามากๆ ทาเน้นๆ บริเวณดังกล่าว แป้งจะได้ช่วยให้รองพื้นหลุดยากขึ้น ในส่วนที่ต้องการความแวววาวควรใช้แปรงจะดีกว่า แปรงจะไม่เก็บเนื้อแป้งมากเกินไป เมื่อใช้แปรงทาแป้งจะทำให้ยังคงเห็นความวาวจากรองพื้นได้อยู่
อายแชโดว์โทนสีน้ำตาล สร้างฟิลลิ่งที่มุ่งมั่น
（7）เพิ่มเงาให้เปลือกตา
สำหรับนักธุรกิจควรเลี่ยงอายแชโดว์โทนสีสดใน แต่ต้องเพิ่มเงาให้ดวงตา เพื่อให้ลุคที่ดูสุขุมเป็นผู้ใหญ่ ดังนั้นขอแนะนำอายแชโดว์โทนสีน้ำตาล
ขั้นแรก เลือกสีที่สว่างที่สุดในพาเลท ให้ทาให้ทั่วเปลือกตาเพื่อปกปิดรอยคล้ำ และใช้สีเดียวกันแต้มที่บริเวณหัวตา วิธีนี้จะช่วยให้ดูมีความสดชื่น
ต่อมาให้เลือกสีน้ำตาลอ่านทาเปลือกตาให้ทั่วถึงแค่บริเวณกรอบดวงตาเพื่อสร้างเงา เทคนิคคือควรใช้นิ้วทาเพื่อให้ดูเป็นธรรมชาติ และแต้มสีเดียวกันด้วยฟองน้ำสำหรับทาอายแชโดว์ทาบริเวณหางตา
ข้อควรระวังในขั้นตอนแต่งตาคือ อย่าแต่งทีละข้าง ให้แต่ทั้งสองข้างไปพร้อมๆ กัน จะได้ออกมาเหมือนกัน
（8）ดัดขนตาเพื่อให้ดวงตาดูเปร่งประกาย
ประกายดวงตาจะมีมากน้อย ขึ้นอยู่กับว่าเราดัดขนตาหรือไม่ ซึ่งอย่างไรก็ต้องขอแนะนำให้ดัดขนตากันดีกว่า เทคนิคคือ ดัดให้ขนตาโค้งรับลูกตา เวลาดัดเราต้องไม่ขยับแค่ข้อมือ แต่ในขณะที่ดัดให้ยกแขนทั้งแขนขึ้นเพื่อให้ได้ขนตาที่โค้งรับลูกตา และตาจะดูเปร่งประกาย
（9）มาสคาร่าช่วยคงความโค้งของขนตา และอายไลเนอร์
หลังดัดขนตาใช้มาสคาร่าปัดชนิดคงความโค้งของขนตาปัดทันทีเพื่อให้ขนตางอนสวยตลอดวัน ควรปัดตั้งแต่โคน
ระหว่างที่มาสคาร่ากำลังแห่ง เราทาอายไลเนอร์ที่จากหางตาขึ้นมา เทคนิคคือ ไม่ใช่กรีดอายไลเนอร์ แต่เป็นการแต้มๆๆ ไปเรื่อยๆ และขอแนะนำว่าถ้าใช้อายไลเนอร์แบบดินสอน่าจะให้ความรู้สึกเป็นผู้ใหญ่ที่ดีกว่าแบบลิขวิด แบบดินสอที่เป็นเส้นเล็กก็มีให้เลือกได้
เมื่อทาอายไลเนอร์จากปลายหางตามาจนถึงกลางตา อาจจะดูเกินๆ ให้ใช้อายแชโดว์สีน้ำตาลเมื่อครู่นี้ ทาให้กลมกลืนไปกับสีเปลือกตา
（10）มาสคาร่าเพื่อขนตาหนา
ปัดมาสคาร่าไม่จำเป็นต้องซ้ำหลายครั้ง ปัดเบาๆ ก็ได้ แต่ข้อควรระวังคือ ควรปัดตั้งแต่โคนขนตา ก่อนปัดหากดัดปลายแปรงให้งอประมาณ 30 องศา จะทำให้ปัดขนตาได้ง่ายยิ่งขึ้น และชนิดมาสคาร่าใช้แบบธรรมดา ดีกว่าแบบไฟเบอร์ เพราะจะทำให้ดูเป็นธรรมชาติมากกว่า
เทคนิคเขียนคิ้วสวย ต้องมีขั้นตอน!
（11）เขียนคิ้วสวยแบบธรรมชาติ
ใช้ที่แปรงขนคิ้วแปรงคิ้วให้เรียงตัวสวย เสร็จแล้วเริ่มเขียนจากกลางคิ้วถึงหางคิ้ว หลังจากนั้นจากไล่เขียนจากกลางคิ้วไปยังหัวคิ้ว เมื่อเสร็จแล้วให้แปรงขนคิ้วอีกรอบ แล้วให้ทำซ้ำขั้นตอนเขียนกลางคิ้วถึงหัวคิ้ว และแปรงคิ้ว ระวังอย่างให้หัวคิ้วสีเข้มเกินไปดูไม่ธรรมชาติ
หลังจากนั้น ใช้ดินสอเขียนคิ้วระบายซ้ำอีกรอบ แต่ละขั้นตอนควรทำคิ้วทั้งสองข้างพร้อมๆ กัน
พวงแก้มสวยระเรื่อ ให้ความรู้สึกร่าเริงแจ่มใส
（12）ใช้สีแอปริคอต หรือสี salmon pink ที่แก้ม
เราได้เตรียมรองพื้นบริเวณแก้มไว้แล้ว ต่อมาให้ใช้บรัชออนชนิดฝุ่นมาตบเบาๆ ที่แก้มเป็นวนเป็นวงกลม เมื่อปัดแก้มที่กลางแก้มอาจจะกลัวว่าเด็กเกินไป? แต่สีแอปริคอตที่แนะนำไปจะดูเนียนไปกับผิวได้ดี แม้ปัดตรงกลางแก้มก็ไม่มีปัญหา!
สีของเรียวปากใช้สีเดียวกับแก้ม สวยเข้ากัน
（13）ทาลิปให้เรียวปากสวยก็เสร็จแล้ว
ใช้ลิปที่มีสีเดียวกับครีมรองพื้นสำหรับทาแก้ม พอใช้สีเดียวกัน โทนสีเมคอัพก็จะดูสวยเนียนเข้ากันไปทั้งใบหน้า จบด้วยลิปสี coral color ก็โอเคนะ
แต่งหน้าสไตล์ธรรมชาติ จะทำให้ได้ลุคสุขุม และสวยเนียนไม่ดูเยอะเกินไปด้วยค่ะ!